คุณคมสันฯ ถามมาว่า
ติดตามคอลัมน์ “ฟอไฟฟุดฟิดอังกฤษอเมริกัน” แล้วก็ “พาสปอร์ตรอบโลก” รวมถึงซื้อหนังสือฟอไฟฟุดฟิดอังกฤษอเมริกัน แทบทุกเล่ม (สมัยเรียนหนังสือนะครับ)
วันนี้ มีคำถามอยากถามคุณบ๊อบว่า ความแตกต่างระหว่าง Exhaust กับ Fatigue ที่ดูเหมือนจะแปลว่า “เหนื่อยมาก ๆ” เหมือน ๆ กัน
ถ้าเราอยากพูดว่า "ฉันเหนื่อย" มีวิธีพูดง่ายๆ หลายแบบครับ
แบบแรกคือ to be tired (ต้องมีกริยา to be นะครับ ถ้าคุณต้องการสื่อความหมายนี้จะพูดว่า I tired เฉยๆ ไม่ได้) เช่น Can we take a break, Mr. Wick? I'm tired. = เราพักกันสักหน่อยได้ไหมครับ คุณวิค ผมเหนื่อย
หรือถ้าเหนื่อยมากจนแทบยืนไม่ไหว ก็อาจเติมคำว่า dead ไปข้างหน้า เป็น dead tired
ถ้าคุณเป็นคนที่ทำให้คนอื่นเหนื่อยก็ไม่ต้องมี to be เช่นสมมุติว่าเพื่อนคุณถามว่าคุณมีเคล็ดลับอะไรจัดการกับเจ้านายที่เป็นเฒ่าหัวงู คุณก็อาจตอบว่า I tired him out by running around the desk. = ฉันทำให้เขาเหนื่อยหมดแรงโดยการวิ่งรอบๆ โต๊ะทำงาน
แบบที่สองคือ to be exhausted ซึ่งวิธีใช้เหมือนกับ to be tired แต่ความหมายต่างกันเล็กน้อย คือในขณะที่ tired บ่งถึงความเหนื่อยทั่วไป exhausted คือการเหนื่อยจนหมดแรง เหมือนกับ to be tired out หรือ to be worn out หรือ to be wiped out (ซึ่งยังมีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ ถูกกวาดล้าง)
โปรดสังเกตนะครับว่า exhaust ยังมีอีกหลายความหมายที่ไม่เกี่ยวกับความเหนื่อย บางทีคุณอาจเห็นร้านเขียนป้ายว่า exhaust repair ก็อย่าหวังว่าเขาจะบรรเทาความเหนื่อยของคุณให้หมดไปนะครับ เพราะในที่นี้เป็นการย่อจาก auto exhaust repair = ซ่อมไอเสียรถยนต์ (หมายถึงระบบไอเสียน่ะครับ ไอเสียที่เป็นแก๊สคงซ่อมให้เป็นไอดีไม่ได้อยู่แล้ว)
นอกจากนั้น exhaust ก็ยังใช้เป็นกริยาได้ด้วย แปลว่าทำหมดทุกอย่างแล้ว (แต่ไร้ผล) เช่น We've exhausted all diplomatic options. It's time to consider upping the ante. = เราใช้วิธีทางการทูตจนหมดเกลี้ยงแล้ว (แต่ไม่ได้ผล) ถึงเวลาแล้วที่จะต้องพิจารณายกระดับเดิมพัน
ถ้าเป็นสแลงอังกฤษก็มีคำหนึ่งที่นิยมใช้ในหมู่เพื่อนฝูง นั่นคือ knackered (แน็คเข่อร์ด) (ขอบคุณคุณ June Osti) เช่น What's the matter, love? You look absolutely knackered. = เป็นอะไรจ๊ะที่รัก เธอดูหมดเรี่ยวหมดแรงเลยนะเนี่ย
ส่วน fatigue (ฟาทีก) เป็นความรู้สึกเหนื่อยล้า หรือ เมื่อยล้า ครับ เช่น We were quite fatigued from standing around all day. = พวกเราเมื่อยล้าพอสมควรจากการที่ยืนแกร่วอยู่ทั้งวัน
นอกจากนั้นถ้าเป็นนามพหูพจน์ fatigues ยังแปลว่า ชุดสนามของทหาร
ที่เรียกเช่นนั้นเพราะเป็นชุดที่ทหารใส่เวลาทำงานที่ไม่ใช่การออกรบ เช่นปัดกวาดทำความสะอาด งานเหล่านั้นเรียกว่า fatigues เพราะเป็นงานที่เมื่อยล้าน่าเบื่อ ตอนหลังคำว่า fatigues ก็กลายมาเรียกชุดที่ใส่ระหว่างทำงานลักษณะนั้น และต่อมาก็กลายเป็นคำเรียกชุดสนามทั่วไปของทหาร
แล้วก็ยังมีคำว่า weary = ละเหี่ยใจ อ่อนแรง อ่อนล้า วิธีใช้ไม่ต้องเติม -ed เหมือนคำอื่นๆ ที่เราเพิ่งดู เช่นในเพลง Old Man River จากละครเรื่อง Showboat มีเนื้อท่อนหนึ่งร้องว่า I get weary, and sick of trying. I'm tired of living, but scared of dying. = ฉันล้าเต็มทนและเบื่อที่จะต้องพยายามต่อไป ฉันเบื่อที่จะมีชีวิตแต่ก็กลัวตาย
But ol' man river, he just keeps rolling along....
คุณอาจเคยเห็นสำนวนหนึ่งที่นิยมแพร่หลาย คือ sick and tired = เอือมระอาเต็มทน เบื่อหน่ายจนอยากจะอ้วก เช่น I'm sick and tired of people telling me what I can or cannot say. This is a free country, and I'll say whatever I want. = ฉันเอือมระอาเหลือเกินกับคนที่ชอบบอกฉันว่าฉันพูดอะไรได้หรือไม่ได้ นี่เป็นประเทศเสรีและฉันจะพูดอะไรก็ได้ที่ฉันต้องการ
แน่นอนครับ ถ้าคุณพูดอย่างนั้นในบางประเทศคุณอาจจะไม่มีโอกาสได้พูดต่อมากนัก แต่อย่างน้อยคุณก็ฝากตัวอย่างการใช้สำนวน sick and tired ให้คนอื่นได้อ่าน