Road Rage

13 ธันวาคม 2549

“มารศรี เธอปล่อยให้มันตัดหน้าเธอได้ยังไง ด่ามันหน่อยสิ นี่”

“นี่ เอามือเธอคืนไป ไม่ต้องมาบีบแตรฉัน”

“บ้า ฉันไม่ได้จะบีบแตรเธอซะหน่อย ยังกะของเธอน่าบีบนักหนา”

“เอ๊ะ เธอพูดเรื่องอะไรของเธอ แตรรถคันไหนก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”

“เอ่อ ก็ใช่ โทษที ฉันนึกว่าเธอใช้สำนวนบีบแตรในอีกความหมาย”

“อ้าว จะมีความหมายไหนอีกล่ะ ฉันก็นึกว่าเธอกำลังเอื้อมมือมาเพื่อ honk my horn ซะอีก ในภาษาอังกฤษ บีบแตร เรียกว่า honk หรือ honk (one’s) horn หรือ sound (one’s) horn แต่ถ้าเธอไปอินเดียก็จะเห็นเขาใช้ horn เป็นกริยาว่าบีบแตรเลย ที่นั่นเขาถือว่าการบีบแตรเป็นเรื่องธรรมดา ตรงท้ายรถเมล์หรือรถสามล้อก็จะเขียนว่า Please horn. เป็นภาษาอังกฤษแบบอินเดียแปลว่า โปรดบีบแตร (เพื่อขอทาง) เขาก็เลยบีบแตรกันขรมตลอดเวลา”

“เธอก็น่าจะหัดบีบมั่ง นี่ปล่อยให้เขาตัดหน้าเฉย cut your face ใช่มะ”

“อะไรของเธอ ไม่ใช่ ตัดหน้าแบบนี้เขาเรียกว่า cut in front of เช่น Other cars can cut in front of me, but I won’t lose my temper. = รถคนอื่นอาจจะตัดหน้าฉันได้ แต่ฉันจะไม่อารมณ์เสีย

“อะไรจะแม่พระขนาดน้าน แม่นักเรียนนอกเอ๊ย เป็นฉันนะ ฉันจะตามไปบี้ก้นมันเลย”

“มันไม่เกี่ยวว่าฉันเป็นนักเรียนนอกหรือในหรอก road rage = ความโกรธแค้นที่เกิดบนท้องถนน ทำให้คนตายมามากต่อมากแล้ว เธอรู้ไหม ถ้าเธอไล่บี้เขาแล้วเขาเบรกกะทันหัน เธอก็ชนก้นเขา ลงมาด่ากัน ในที่สุดเขาชักปืนออกมายิง แล้วเธอว่าคุ้มไหม ใครจะขับแบบบ้าคลั่งก็ปล่อยเขาไป ฉันชอบ defensive driving = การขับอย่างป้องกันตัวเอง แบบนี้มากกว่า”

สมัครเป็นสมาชิก ดาวน์โหลดฟรีอีบุ๊ค "ฟอไฟฟุดฟิดอังกฤษอเมริกัน เล่ม 1"

* indicates required
boonhod@hotmail.com
Copyright (C) 2019 by Jakkrit Srivali. All rights reserved. สงวนลิขสิทธิ์ โดย จักรกฤษณ์ ศรีวลี
>
linkedin facebook pinterest youtube rss twitter instagram facebook-blank rss-blank linkedin-blank pinterest youtube twitter instagram